คำตอบ: องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าควรรับประทานวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 60-95 มิลลิกรัม แต่ไม่เกิน 2 กรัม (2000 mg) ผู้ชายควรได้รับวิตามินซี 90 มิลลิกรัม ผู้หญิงควรได้รับ 75 มิลลิกรัม ผู้ที่สูบบุหรี่ควรได้รับวิตามินซีเพิ่มจากคนปกติอีก 35 มิลลิกรัม สตรีมีครรภ์ควรได้รับวิตามินซี 90 มิลลิกรัม แม่ที่ให้นมบุตรควรได้รับ 75-120 มิลลิกรัม
การรับประทานวิตามินซีมากแม้ว่าจะไม่เป็นพิษรุนแรงเพราะร่างกายขับวิตามินซีออกได้ทางปัสสาวะ แต่เมื่อวิตามินซีเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วจะได้กรดออกซาลิก ซึ่งหากกรดนี้มีมากเกินไปก็จะก่อตัวเป็นนิ่วได้ และยังก่อให้เกิดอาการท้องเสียและปวดท้องได้ ทำให้มีการเคลื่อนย้ายแคลเซียมออกจากกระดูกเพิ่มขึ้นจึงลดฤทธิ์ยาจำพวกกันเลือดแข็งตัว เช่น wafarin sodium จึงทำให้เลือดออกมาก ลดการดูดซึมวิตามินบี12 การทานวิตามินซีปริมาณมากในเด็กจะทำให้เกิดผื่นและปวดศีรษะได้
วิตามินซีพบในผลไม้รสเปรี้ยวทุกชนิด มีมากที่สุดในผลมะขามป้อม นอกจากนั้นยังพบในผักใบเขียว มันฝรั่ง มะเขือเทศ วิตามินซีมีหลายรูปแบบ ชนิดที่พบในผลไม้จะดีที่สุดเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง เพิ่มการดูดซึมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีได้ดีกว่าวิตามินซีที่มาจากสารเคมีสังเคราะห์ - ตอบโดย สุทธิวรรณ บูรณะพิมพ์ (แพทย์จีน)
คำตอบ: เรื่องขาวจริงหรือไม่ แล้วแต่ตัวบุคคลครับ วิตามินซีช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวได้ก็จริงแต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและใช้เมื่อมีข้อบ่งชี้ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ฉีดให้ ไม่นำไปฉีดเอง สาหตุที่แพงกว่าแบบกินเพราะว่า แบบกินกับแบบฉีดเป็นคนละรูปแบบ การดูดซึม และแบบกินย่อยในกระเพาะอาหาร ดูดซึมน้อยกว่าแบบฉีดสามารถนำไปใช้ได้เลย - ตอบโดย Rattapon Amampai (Dr.)
คำตอบ: กินได้แต่ควรปรึกษาแพทย์การทานในปริมาณที่เหมาะสมจะดีกว่า ใช้ยารักษาสิวในคนตั้งครรภ์และต้องใช้อย่างระมัดระวังทุกครั้ง ที่ดีไปกว่านั้นอีก คือ ไม่ต้องรักษาสิวเลย จนกว่าจะคลอด และเลิกให้ลูกกินนมค่ะ - ตอบโดย วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
คำตอบ: ขอสรุปสั้นๆเลยนะคะ ในกรณีของยาลดความอ้วน ส่วนใหญ่มักมียาขับปัสสาวะ ยาธัยรอยด์ ยาขับถ่าย สารอนุพันธ์ของแอมเฟตตามีนหรือยาหลอนประสาทชนิดต่างๆ ซึ่งแน่นอนยาเหล่านี้ถ้าไม่ได้เป็นโรคอะไรแล้วอยู่ๆกินขึ้นมา จะต้องไม่ดีต่อร่างกายแน่ๆ ทั้งต่อหัวใจหลอดเลือด ตับ ไต ระบบประสาท ๆลๆ และถ้าทานเข้าไปมากๆเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและหยุดเต้นได้ ถึงขั้นเสียชีวิตค่ะ สำหรับการฉีดวิตามินซีบ่อยๆจริงๆมีผลต่อเรื่องความขาวน้อยมาก การทานหรือฉีดเพิ่มควรให้ในคนที่เป็นโรคขาดวิตามินซีหรือลักปิดลักเปิดมากกว่า ซึ่งการฉีดวิตามินซีที่ไม่ได้มาตรฐานหรือสั่งจากเน็ตมาฉีดเองอันตรายมากค่ะ อาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้ถ้าฉีดแบบไม่สะอาด หรือการฉีดแบบไล่ฟองอากาศไม่หมดก็อาจทำให้เกิดลมอุดตันในหลอดเลือดได้ ซึ่งภาวะเหล่านี้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตค่ะ - ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.)
คำตอบ 2: ยาลดความอ้วนจะมีตัวยาหลายกลุ่มผสมอยู่ เช่น ยาไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ลดความอยากอาหารค่ะ มียาระบายผสมอยู่ ยาขับปัสสาวะ การใช้สารทำให้ขาวหรือวิตตามินซีนานๆส่งผลให้ ตาบอดและเป็นมะเร็งได้ค่ะ - ตอบโดย วลีรักษ์ จันทร (พว.)
คำตอบ 3: ยาลดความอ้วนที่ขายส่วนมากอันตรายและไม่แนะนำให้ใช้ครับ เนื่องจากเราไม่ทราบส่วนประกอบที่ชัดเจน หากต้องการทราบส่วนประกอบที่แท้จริงว่ามีสารอะไรที่เป็นอันตรายอาจเก็บตัวอย่างยาไป ที่โรงพยาบาลที่สามารถตรวจได้หรือองค์การอาหารและยา เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนถึงผลของยาลดความอ้วนนั้นๆครับ ส่วนเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต หากต้องการทราบ อาจตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์หรือนิติเวชชันสูตรอีกทีครับ - ตอบโดย Rattapon Amampai (Dr.)
คำตอบ: ขึ้นอยูกับขนาดของวิตตามินซีที่รับประทานด้วยค่ะ เช่น หากรับประทานวิตตามินซีขนาด 200 mg ร่างกายก็จะสามารถดูดซึมได้ 100% หากรับประทานวิตตามินซีขนาด 500, 1000,1500 mg ก็พบว่าร่ายกายสามารถดูดซึมได้ประมาณ 50%ซึ่งใกล้เคียงกันค่ะ ดังนั้นหากจะรับประทาน ก็แนะนำให้ทานขนาด 500 มิลลิกรัม เช้า และ เย็นค่ะ - ตอบโดย Buakhao Arpaporn (พญ.)
คำตอบ 2: ประมาณ2000mg ค่ะ ไม่ควรรับเกินกว่านั้น - ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.
คำตอบ 3: ร่างกายจะดูดซึมวิตามินซี ได้ครั้งละ 250-350 mg หากต้องการ 2000 mg ก็ควรแบ่งทาน หลายๆ ครั้ง (เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน เป็นต้น)
..วิตามินซี มีทั้งที่เป็นกรดและเป็นกลางนะครับ ต้องดูให้ดีก่อนซื้อ
..วิตามินซีที่เป็นกรดไม่ควรอมไว้นาน มันจะทำลายฟัน ควรจะกลืนพร้อมน้ำจะดีกว่า
..วิตามินที่เป็นกลาง ส่วนใหญ่จะผสมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ไว้ด้วยเพียงเล็กน้อย เช่น แคลเซี่ยมแอสคอร์เบท โซเดียมแอสคอร์เบท เป็นต้น ซึ่งก็เป็นวิตามินซีเหมือนกัน
วิตามินซี มีคุณสมบัติเป็นตัวช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ในอาหารทั้งผักและผลไม้ก็มีวิตามินซี ได้แก่ พุทรา ส้มโอ ฝรั่ง กีวี สตรอว์เบอร์รี่ มะละกอ มะข้ามป้อม มะม่วง ระกำ มะนาว สับปะรด พริกหวานสีเหลือง กะหล่ำดอก บรอกโคลี กะหล่ำดาว ผักเคล ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ใบมะรุม ชะอม เป็นต้น
วิตามินซี หรือเรียกอีกชื่อว่า กรดแอสคอร์บิค (Ascorbic acid) เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำและร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องได้จากการรับประทานเข้าไป
หากทานน้อยเกินกว่าที่ร่างกายต้องการจะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียเบื่ออาหาร ปวดตามข้อต่อของร่างกาย เลือดออกตามไรฟัน เจ็บกระดูก เป็นแผลหายช้า เป็นโรคลักปิดลักเปิด
แต่หากได้รับมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ อาจทำให้เป็นเกาต์เนื่องจากวิตามินซีมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย
การรับวิตามินซีในปริมาณมาก จะทำให้เกิดปัญหาการสะสมธาตุเหล็กตามกระดูกข้อต่อต่างๆมากขึ้น นิ่วในไตนอกจากนั้นการกินวิตามินซีมากเกินไป อาจไปรบกวนการดูดซึมของทองแดงและซิลิเนียม ซึ่งส่งผลให้มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้ และหากได้รับเกินกว่าวันละ 10,000 มิลลิกรัม อาจทำให้ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อ
จากงานวิจัยในเรื่องของการใช้วิตามินเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของโรคเพื่อป้องกันไข้หวัดนั้นไม่สามารถดำเนินได้จากการทานวิตามินซีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องออกกำลังกายเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่ได้มีงานวิจัยรองรับการป้องกันโรคจากวิตามินซีดังกล่าว แต่การกินวิตามินซีก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายศูนย์ควบคุมและป้องกันโรครวมถึงองค์การอนามัยโลกได้กล่าวในทิศทางเดียวกันว่าการลดปัญหา COVID-19 ได้ มีเพียงวิธีเดียวที่จะลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัส คือการป้องกันการติดเชื้อ..
โปร-เอ็กบี Pro-xB มีวิตามินซี ที่ไม่เป็นกรด ไม่ระคายเคืองกระเพาะ..เป็นอาหารเสริมแบบองค์รวม..
หน้าที่เข้าชม | 1,270,971 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,126,271 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ส.ค. 2568 |