ในประเทศที่มีภูมิอากาศหนาว หรือ เย็นจัด มองไปรอบๆคุณจะเห็นว่าใบหน้า และ จมูกของผู้คนที่เดินตามท้องถนน จะแดงๆ บางคนแค่แดงนิดหน่อย แต่บางคนนี่สิแดงก่ำเชียว โดยอาการหน้าแดงที่พบเห็นได้ช่วงอากาศหนาวนี้เป็นเพราะ บริเวณใบหน้าของคนเรามีหลอดเลือดอยู่เป็นจำนวนมากกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย ต่างจากริมฝีปากที่เป็นสีแดงเพราะนอกจากมีหลอดเลือดอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว ผิวหนังห่อหุ้มริมฝีปากยังบางอีกด้วย อีกสาเหตุหนึ่งที่ทั้งหน้า และ จมูกแดงเป็นเพราะ หลอดเลือดขยายตัว เลือดจึงมาหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นเต็มที่
มีหลายปัจจัยที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวตามธรรมชาติโดยเฉพาะในฤดูหนาว เช่น ผู้คนหมกตัวอยู่ในบ้านที่มีอุณภูมิข้างในและนอกบ้านต่างกันลิบลับ การดื่มเครื่องดื่มหรือ รับประทานอาหารร้อนๆ ตลอดจนอาจมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมา จะเห็นว่าใบหน้าของคนที่มีพฤติกรรมข้างต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อและอาจแดงก่ำในบางคน หน้าแดงแบบนี้พบเห็นกันบ่อยช่วงฤดูหนาว
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำทักจากเพื่อนฝูงประมาณว่า “ หน้าเธอแดงจัง ดื่มหนักเมื่อคืนหรือ?” หรือ “ เธอรู้สึกขายหน้าหรือเปล่าน่ะ” คนที่หน้าแดงนั่นละเขาเรียกว่ามีอาการ hot flush ร้อนวูบวาบไปทั้งหน้า
ซึ่งเกิดขึ้นได้แม้เพียงคุณจะรู้สึกเขินอายเล็กน้อย อยู่ท่ามกลางอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงหรืออาจไม่พบสาเหตุการเกิดเลยก็เป็นได้
อาการร้อนวูบวาบบนใบหน้านี้ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันที ทว่าผู้ที่มีอาการนี้มักเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นโรคอะไรร้ายแรง และควรได้รับการแก้ไขด่วน
สาเหตุการเกิด Hot flush
- ระบบประสาทอัตโนมัติ (autonomic nervous system,
- การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ,
- โรคที่เกิดทั้งตัว หรือ หลายระบบในร่างกาย ( systemic disease)
1. คุณหน้าแดงเมื่อ รู้สึกตื่นเต้น โกรธ ขายหน้า
แม้กระทั่งอาการเขินอายนั้น รู้ไหมว่า ความรู้สึกแบบนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic nervous System) โดยระบบประสาท sympathetic นี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบประสาทอัตโนมัติซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของคนเรา และจะมีผลทำให้ หัวใจเต้นเร็ว หลอดลมขยายตัว ความดันเลิอดสูงขึ้น เหงื่อออกมาก อุณหภูมิร่างกายเพิ่มมากขึ้น หากเรามีอารมณ์ ความรู้สึกที่กล่าวข้างต้น
ขณะเกิด hot flush หน้าคุณแดงจนสังเกตได้ หลอดเลือดขยายตัวทำให้เลือดหล่อเลี้ยงบริเวณใบหน้าคุณเต็มที่ และจะหน้าแดงหนักกว่าเดิม หากคุณไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ตึงเครียด หรือ ยับยั้งความคิดอันส่งผลต่อการแสดงออกของคุณ
2. Hot flush มีสาเหตุจากร่างกายผลิตความร้อนเพื่อต่อสู้กับอากาศหนาว
ยามอากาศหนาวมาเยือน ร่างกายเราจะผลิตความร้อนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สังเกตได้จาก อวัยวะเช่น หู ซึ่งมีชั้นผิวหนังบางกว่า จมูกและ แก้ม เป็นอวัยวะส่วนแรกที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ตามมาด้วย จมูก และ แก้มตามลำดับ เมื่อหลอดเลือดขยายตัวพร้อมกับเลือดไหลมาหล่อเลี้ยงบริเวณนั้น ๆ ยกตัวอย่าง ส่วนใบหน้าคนเรา จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ทว่าหากปัญหานั้นเกี่ยวกับหลอดเลือดคุณโดยตรง อาจสรุปได้ว่าอาการหน้าแดงที่เกิดขึ้นไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเลย
และหากร่างกายของเราอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเป็นเวลานาน ฟัน ตัวเราจะสั่นไปทั้งร่าง ริมฝีปากจะเห็นว่าใบหน้าค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน หรือ ขาวซีดเนื่องจากหลอดเลือดหดตัว และ เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นไม่เพียงพอ
3. hot flush ที่เกิดจากการรับประทานอาหารร้อนๆ เผ็ดจัด หรือ ดื่มเครื่องดื่มมีฤทธิ์แอลกอฮอล์
หลายคนอาจเกิดอาการ hot flush ใบหน้าร้อนผ่าววูบวาบ หากร่างกายขาดการปรับสมดุลระหว่างดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ใบหน้าจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและแดงขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่า “ ร่างกายไม่ชินกับของมึนเมา” ซึ่งเกิดจากขาด เอนไซม์ตัวสำคัญที่ใช้ย่อยแอลกอฮอล์
อาหารร้อนจี๋ รสชาติเผ็ดจัด ตลอดจนอาหารประเภท ถั่ววอลนัท เนยแข็ง และช็อกโกแลต ก็เข้าข่ายเป็นตัวการกระตุ้นการทำงานของ ระบบประสาทอัตโนมัติ (autonomic nervous system) เผยใบหน้าแดงสุดๆสู่สายตาสาธารณชนนั่นไง
4. ยาขยายหลอดเลือดตัวการทำให้เกิด hot flush
อาการร้อนผ่าว หน้าแดง อาจเกิดกับผู้ที่รับประทานยาประเภท ลดความดันโลหิตสูง ( Nifedipine, Verapamil) , โรคหัวใจ ( NitroGlycerin) หรือ ยาแก้วัณโรค ( Rifampin ) เป็นประจำ แต่หากหยุดยาแล้ว อาการ hot flush จะหายไปโดยปริยาย
5. อบซาวน่าเป็นชั่วโมง หรือ อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนจัดก็เพิ่มดีกรี hot flush ได้เหมือนกัน
อุณหภูมิสูงเป็นตัวการให้หลอดเลือดขยายตัวเพื่อระบายความร้อนออกไปจากร่างกาย และจุดที่สังเกตได้ง่ายคือ ช่วง แก้มซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นเลือดขยายตัวมากจนเห็นได้ชัด อาการหน้าแดงเลยตามมา
6. ความบกพร่องทางกายหรือโรคร้ายสามารถทำให้เกิด hot flush ได้เช่นกัน
โรคร้ายที่พบว่าสามารถกระตุ้นการเกิด hotflush อาทิ โรค Carcinoid syndrome หรือ เนื้องอก carcinoid ซึ่งหลั่งฮอร์โมนหลายชนิดออกมา , เบาหวาน, Mastocytosis, เนื้องอกในตับอ่อน,ไต, หรือ ต่อมหมวกไต รวมทั้งความรู้สึกไวต่อความหนาวเย็น ล้วนสามารถทำให้เกิด Hot flush ได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจอวัยวะภายในอย่างละเอียด
ที่มา: The Rare Diseases Helpline, National Institutes of
7. Hot flush เพราะฮอร์โมนเปลี่ยนในวัยหมดประจำเดือน
hot flush จากประสบการณ์ของผู้หญิง 75 % วัยหมดประจำเดือนทั้งหลาย เกิดขึ้นเพราะอุณหูภมิร่างกายสูงขึ้น อาการนี้จะคงอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วก็จะหายไป 80 % ทว่ามีรายงานบางฉบับชี้ให้เห็นว่า hot flush สามารถคงอยู่เป็นเวลา 5 ปีทีเดียว ข้อมูลเพิ่มเติมเผยว่าหากคนเราอยู่ภายใต้แรงกดดัน ความเครียด หรืออากาศร้อนจัดนานๆ ปัจจัยภายนอกเหล่านี้จะทำให้อาการ hot flush รุนแรงขึ้น และยังส่งผลโดยตรงต่อการนอนหลับ ร่างกายอ่อนล้าอิดโรย ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนด้วย
8. ปัจจัยอื่นๆกระตุ้นการเกิด hot flush
ออกไปอยู่กลางแจ้งนานๆ ต้องผจญรังสี UV อยู่เป็นนิจ สามารถทำลายเส้นใยยืดหยุ่นที่ห่อหุ้มหลอดเลือด ก่อให้เกิด hot flush เนื่องจากหลอดเลือดขาดตัวช่วยปกป้องซะแล้ว
-เมื่อคุณเป็นสิว ไม่ต้องตกใจหากมีอาการ ร้อนวูบวาบที่ใบหน้า สาเหตุมาจากการที่หลอดเลือดบริเวณนั้นขยายตัว
จะรักษา hot flush อย่างไร
หลังพบต้นเหตุการเกิด อาการร้อนผ่าวบนใบหน้าหรือส่วนอื่นของร่างกาย ก็ถึงคราวต้องทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม หากอาการ hot flush นี้มีที่มาจากโรคแทรกซ้อนภายใน แพทย์ต้องรักษาโรคนั้นเป็นลำดับแรก ก่อนจัดการกับ hot flush
1. อารมณ์ไม่นิ่ง ขึ้นๆลงๆตลอด ขนาดเจอแค่เรื่องเล็กน้อย
คนใจร้อน อารมณ์เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ขี้หงุดหงิด หรือขี้กลัว จนซ่อนอารมณ์ไม่อยู่มักแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า เราแนะนำว่าคุณควรไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาวิธีปรับอารมณ์ของคุณให้สมดุล ร่วมด้วยการใช้ยากระตุ้นการทำงานของ autonomic nerve ก็เป็นหนทางรักษาให้หายได้
คุณควรเริ่มการออกกำลังกายเบาๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น วิ่ง jogging เพื่อช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีความสมดุล ลดความเครียด อย่าลืมบริโภคอาหารที่อุดมด้วย estrogen จำพวกถั่ว และ เต้าหู้ ซึ่งช่วยบำบัดอาการผิดปกติในวัยหมดประจำเดือนและได้ผลชะงัดนัก ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจเสริมด้วยการบำบัดโดยใช้ฮอร์โมน แต่คุณต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเท่านั้น
3. ดื่มแต่พอดีไว้ก่อน แล้ว hot flushจะไม่ปรากฏ
คนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วเริ่มหน้าแดงนั้นเกิดจาก ภาวะร่างกายขาดประสิทธิภาพในการย่อยแอลกอฮอล์นั่นเอง ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนคนขับรถที่หวังอยากให้รถตัวเองขับเคลื่อนด้วยน้ำแทนน้ำมัน สำหรับคนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์แล้วหน้าแดงง่ายกว่าคนอื่นนั้น หมั่นสังเกตตัวเองและพยายามลดปริมาณการดื่มลง เน้นดื่มแต่พอดี
4. บริโภควิตามิน k เพื่อผิวแข็งแรง สุขภาพดี และผนังหลอดเลือดยืดหยุ่นขึ้น
คุณสามารถลดอาการ หน้าแดงร้อนวูบวาบโดย รับประทานวิตามิน K เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดฝอย และเพิ่มความหนาของชั้นผิวหนัง อีกทางเลือกหนึ่งที่ทำได้ คือ หมั่นทาครีมบำรุงอุดมด้วยวิตามิน นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มี วิตามินเคสูง เช่น สาหร่ายสีน้ำตาล (laver, kelp,) และ ผักใบเขียว ( ผักกาดหอม และผักโขม) ล้วนแต่อุดมด้วยวิตามิน k ทั้งสิ้น
5. ยาชนิดต่างๆ
น้ำมันนวด (ointment) ที่มี สารปฏิชีวนะเป็นส่วนประกอบนั้น ให้ผลข้างเคียงกับหลอดเลือด กล่าวคือทำให้หลอดเลือดขยายใหญ่ คุณจึงควรเลือกใช้ ยาที่ปราศจากสารสเตอรอยด์แทน โดยหยุดยาทันทีหลังจากใช้เป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว และแพทย์อาจตัดสินใจใช้วิธีผ่าตัด( surgical intervention)ร่วมด้วยเพื่อวัดการตอบสนองของร่างกายจากการใช้น้ำมันนวด (ointment)
การป้องกัน hot flush
1. หลีกเลี่ยงการออกไปเผชิญอากาศร้อน และพยายามจำกัดเวลาอบซาวน่าหรืออาบน้ำอุ่นให้สั้นลง
2.อย่าลืมทาครีมกันแดด(ตัวการสำคัญทำลายเส้นใยยืดหยุ่นห่อหุ้มเส้นเลือด)และ มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นทุกครั้งก่อนออกไปข้างนอก
3.สวมเสื้อผ้าหนาๆ ร่างกายจะได้อบอุ่นเมื่อต้องเผชิญอากาศหนาว และอาจสวมหน้ากากเพื่อปกป้องผิวหน้าจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วย
4.ก้าวเข้าสู่สถานที่ที่มีอากาศอบอุ่นซึ่งต่างจากที่หนาวจัดที่เพิ่งจากมาลิบลับ แนะนำว่าควรใช้ผ้าปิดแก้มทั้งสองไว้สักครู่ จากนั้นนวดแก้มแต่เพียงเบาๆ เพื่อปรับสภาพผิวหน้า
5.ไม่ควรรับประทานอาหารร้อนจัดหรือ มีรสชาติเผ็ดร้อนสุดๆ อีกทั้งหลีกเลี่ยง walnut เนยแข็ง ช็อกโกแลต และเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์
6.อย่าทาน้ำมันนวดบนหน้าคุณเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้หลอดเลือดขยายใหญ่ ยิ่งถ้าน้ำมันนวดนั้นมีส่วนผสมของ สารสเตอรอยด์ด้วยแล้วอาการคุณจะหนักเป็นสองเท่า