เชื่อว่าหากร่างกายของเราได้รับคลอโรฟิลล์เข้าไปก็จะไปเป็นสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ในภาวะโลหิตจาง เป็นต้น โดยปกติแล้วในร่างกายของเราจะมีการสร้างและทำลายเซลล์มากกว่า 2.5 ล้านเซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ร่างกายทำงานหนัก เม็ดเลือดแดงในร่างกายก็จะถูกทำลายมากขึ้นตามไปด้วย และร่างกายของเราก็ต้องมีการสร้างขึ้นมาทดแทนในจำนวนเท่า ๆ กัน ตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายของเรามีความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง สาเหตุอาจจะมาจากการขาดสารตั้งต้นอย่างคลอโรฟิลล์ เมื่อปล่อยให้มีความบกพร่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติตามมา เพราะเม็ดเลือดแดงถือเป็นระบบขนส่งอาหารที่สำคัญอย่างมากในร่างกาย
แต่ก็มีข้อโต้แย้งออกมาว่าสารสกัดจากคลอโรฟิลล์นั้นไม่สามารถนำไปใช้สร้างเม็ดเลือดแดงได้ เนื่องจากมันมีองค์ประกอบของโครงสร้างและหน้าที่แตกต่างจากเม็ดเลือดแดงอย่างสิ้นเชิง เพราะหน้าที่หลักของคลอโรฟิลล์นั้นช่วยในการสังเคราะห์แสงของพืชเท่านั้น
คลอโรฟิลล์ที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นสารสังเคราะห์ที่มีชื่อว่า โซเดียมคอปเปอร์คลอโรฟิลลิน (Sodium copper chlorophyllin) ซึ่งเป็นการดัดแปลงโครงสร้างตามธรรมชาติ ทำให้ได้สารที่ยังคงมีสีเขียวอยู่ แต่ยังมีความคงตัวและสามารถละลายน้ำได้ดี ทำให้นำมาผสมในอาหารและเครื่องดื่มได้
องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รับรองความปลอดภัยคลอโรฟิลด์เฉพาะชนิดที่ละลายน้ำเท่านั้น เนื่องจากหากได้รับคลอโรฟิลล์ที่ละลายในน้ำมากเกินไปร่างกายยังสามารถขับออกมาทางปัสสาวะได้ แต่หากรับชนิดที่ละลายในไขมันมากเกินไปจะทำให้เกิดการสะสมและส่งผลต่อตับและไตได้
ตอบ ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ในชั้นของใบพืชที่มีประโยชน์ในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ แต่จะดีที่สุดเมื่ออยู่ในสภาพไม่ละลายในน้ำเท่านั้น ดังนั้นการนำคลอโรฟิลด์มาชงละลายน้ำดื่มจึงไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าที่ควร การรับประทานผัก หรือผลไม้สด จะได้รับสารอาหารอื่นๆ รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายได้ดีกว่ามาก
ตอบ ความจริงคือ ระดับโมเลกุลของคลอโรฟิลล์และฮีมที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกันมาก จนหลายคนเรียกคลอโรฟิลล์ว่าเป็น “เลือดของพืช” แต่ความเป็นจริงแล้วองค์ประกอบของทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันทั้งเรื่องโครงสร้างและหน้าที่
คลอโรฟิลล์ไม่ใช่ฮีโมโกลบิน เนื่องจากคลอโรฟิลล์ช่วยให้พืชสังเคราะห์แสง แต่ฮีโมโกลบินช่วยลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประทานคลอโรฟิลล์เพื่อมาเป็นสารตั้งต้นของเม็ดเลือดแดงได้ และไม่ได้มีสรรพคุณเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกายแต่อย่างใด
ตอบ มีผู้ขายบางท่านบอกว่า คลอโรฟิลล์มีส่วนช่วยในการลดกลิ่นปากและทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นได้ มีการศึกษาวิจัยในมนุษย์เมื่อเทียบกันระหว่างผู้ที่รับประทานยาเม็ดคลอโรฟิลล์กับยาหลอก พบว่า ผู้ที่รับคลอโรฟิลล์สามารถลดกลิ่นอุจจาระได้มากกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก แต่ไม่มีรายงานการทดลองในการใช้ลดกลิ่นปาก
ความเป็นจริงสินค้าประเภทอาหารเสริมที่วางขายอยู่โดยทั่วไปยังมีปริมาณความเข้มข้นของคลอโรฟิลล์ไม่มากพอที่จะช่วยดับกลิ่นได้ ทั้งนี้ผู้ผลิตหลายรายเลือกใช้วิธีการแต่งสีเพื่อเพิ่มความน่ารับประทานให้แก่สินค้าเท่านั้น แต่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่อย่างใด
ตอบ สำหรับประโยชน์ในเรื่องการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย คลอโรฟิลด์มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อได้จริงแต่น้อยมากๆ หากเปรียบเทียบกับยาฆ่าเชื้อชนิดอื่นๆ นอกจากนี้คลอโรฟิลล์สามารถยับยั้งเชื้อได้บางชนิดและอาจทำให้เชื้อชนิดอื่นๆ เติบโตขึ้นมาแทนที่ได้ ดังนั้นหากต้องการดื่มน้ำคลอโรฟิลล์เพื่อหวังให้ไปออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อจึงไม่แนะนำเพราะอาจไม่เห็นผลมากนัก
ตอบ เนื่องจากคลอโรฟิลล์ไม่ได้มีลักษณะเป็นเส้นใยตามธรรมชาติจึงไม่เพิ่มปริมาณอุจจาระและไม่ช่วยดูดซับเอาสารพิษออกจากร่างกายในรูปของของเสียได้ อีกทั้งในเรื่องของการทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งก็ยังไม่มีผลวิจัยใดชี้ว่า สารชนิดนี้จะช่วยล้างพิษในร่างกายและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี การดื่มน้ำคลอโรฟิลล์อาจจะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกชื่นชอบกว่าน้ำเปล่าจึงทำให้ดื่มน้ำได้มากขึ้นกว่าเดิม ข้อนี้อาจช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เมื่อระบบขับถ่ายดี มีสารพิษตกค้างน้อยก็อาจส่งผลให้ผิวพรรณสดใสขึ้นได้
มีรายงานการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า คลอโรฟิลล์ ยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารนี้ มีฤทธิ์ยับยั้งเนื้องอกที่เต้านม ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งตับ ช่วยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพการทํางานของเม็ดเลือดขาว ช่วยลดกลิ่นตัว กลิ่นอุจจาระ และกลิ่นปัสสาวะ ช่วยให้รอยแผลบริเวณผิวหนังที่เกิดจากการฉายแสงเพื่อรักษามะเร็งหายเร็วขึ้นและช่วยขับสารพิษ แต่กลไกดังกล่าว ยังไม่เป็นที่แน่ชัดเท่าที่ควร
ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ หรือไวต่อสิ่งกระตุ้นที่มีคลอโรฟิลล์และคลอโรฟิลลินเป็นส่วนประกอบ
หญิงตั้งครรภ์และมารดาที่ให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรับประทานคลอโรฟีลล์และคลอโรฟีลลินเสริม
การรับประทานคลอโรฟีลล์และคลอโรฟีลลินเสริมอาจทำให้ปัสสาวะและอุจจาระมีสีเขียว ลิ้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเกือบดำ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย นอกจากนี้ยังพบรายงานการเกิดอาการแพ้สารคลอโรฟีลลินโดยอาจพบผื่นแพ้ขึ้นตามตัว มีอาการเวียนศีรษะ เหงื่อออกมาก และความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็วได้
โดยทั่วไปขนาดที่นิยมใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คือ 100 มิลลิกรัมต่อวัน ในสหรัฐอเมริกากำหนดความปลอดภัยของสารคลอโรฟิลลินในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือใช้เป็นสีผสมอาหารได้ไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป สามารถรับประทานได้ในขนาด 90 มิลลิกรัมต่อวัน
จากข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวกับคลอโรฟิลล์และคลอโรฟิลลินจะเห็นได้ว่า คลอโรฟิลล์มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ในการบริโภคนั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ความปลอดภัย ความจำเป็นที่ต้องใช้ คุณภาพ และราคา เป็นต้น หากสามารถบริโภคผักใบเขียวได้คงไม่จำเป็นที่จะต้องบริโภคคลอโรฟิลล์ที่เป็นสารสังเคราะห์ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้ควรใช้ในขนาดที่เหมาะสม และสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เพื่อสุขภาพของตัวท่านเอง
เมื่อรู้สึกว่านอนหลับยาก นอนไม่ค่อยหลับ ผิวพรรณเหี่ยวย่น สมองไม่ปลอดโปร่ง อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ไม่มีแรง ..โปร-เอ็กบี Pro-xB..กัดจากธรรมชาติ เห็นผลดีขึ้นตั้งแต่สัปดาห์แรก..ผู้เป็นเบาหวานความดันไทรอยด์ทานได้ดี..