สรรพคุณหินเกลือดำ
1. เป็นยาปฏิชีวนะธรรมชาติ ฆ่าเชื้อไวรัส จุลินทรีย์ตัวร้าน เชื้อรา
2. บรรเทาอาการเจ็บคอ ปวดท้อง กรดไหลย้อน ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องผูกและท้องร่วง
3. เป็นสารสร้างประจุไฟฟ้า ช่วยให้อวัยวะต่างๆทำงานได้อย่างปกติ
4. ควบคุมน้ำในเชลล์และนอกเซลล์ให้สมดุล ช่วยให้ร่างกายไม่บวม
5. ช่วยปรับค่าความเป็นกรด – ด่าง ของร่างกายให้สมดุล
6. เป็นสารให้พลังงาน ให้ความสดชื่น ชนิดไม่เหนื่อย ไม่หิว
7. ป้องกันกล้ามเนื้อเกร็ง และอาการปวดกล้ามเนื้อ
8. ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี ลดภาวะความดันโลหิตสูงและโรคความดันโลหิตต่ำ
9. ช่วยระบบสันดาปอาหาร สร้างน้ำย่อย และช่วยการดูดซึมสารอาหารเข้าร่างกาย
10. ช่วยขับสารพิษ สื่อแปลกปลอม โลหะหนักออกจากร่างกาย
11. มีไอโอดีนชนิด โมเลกุลเล็ก จึงมีพลังในการป้องกันโรคคอหอยพอก
12. ส่งเสริมการสร้างฮอร์โมนเพศทั้งหญิงและชายให้สุขภาพดี
13. มีเอนไซม์ และเป็นตัวโค – เอนไซม์ให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
14. รักษาผิวแห้ง กระดูกและบรรเทาอาการปวดข้อทุกชนิด
กำมะถัน (sulfur) ในหินเกลือดำ เป็นสาร electrolyte ที่ให้ประจุไฟฟ้าลบ เป็นแร่ธาตุสำคัญในหินเกลือดำ ที่มีค่อนข้างมากกว่าเกลือแร่อื่นๆ ซึ่งมีทั้งหมดรวมกันเป็น 84 ชนิด ล้วนเป็นแร่ธาติที่ร่างกายต้องการทั้งสิ้น ซึ่งเฉพาะกำมะถันถูกเรียกว่า แร่ธาตุแห่งความงาม พบในทุกเซลล์ของร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเคราติน(Keratin) ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจน จึงบำรุงทั้งผม ขน เล็บ ผิวหนัง ตามข้อต่างๆ และช่วยกรดอะมิโนสร้างเนื้อเยื่อ
เกลือดำบำบัด
หินเกลือดำ (Volcanic Rock Salt)
เป็นหินเกลือที่พบตามแถบที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน อายุหินเกลือดำถึงกว่า 250 ล้านปี ก่อนมีสิ่งมีชีวิตใดๆจะถือกำเนิดขึ้นมาในโลกใบนี้ ความดำของหินเกลือเกิดจากเถ้าหินลาวาจากภูเขาไฟปกคลุม จึงทำให้หินเกลือมีสีดำซึ่งเต็มไปด้วยแร่กำมะถัน (Sulfur) และมีความเป็นด่างอยู่ในตัว มีค่าความเป็นประจุไฟฟ้าสูงที่สุด เป็นค่าประจุไฟฟ้าลบ ซึ่งดีต่อสุขภาพ
หินเกลือดำ ผ่านการสั่นสะเทือนแต่น้อยๆของสนามแม่เหล็กโลก ระหว่างขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ทำให้โมเลกุลของหินเกลือเล็กลงอย่างมาก ขนาดเล็กเท่ากันประจุไฟฟ้าที่อยู่ในเซล์ลเรียกว่า Electrolyte ทำให้แร่ธาตุจำนวนถึง 84 ชนิดในหินเกลือดำ สามารถเคลื่อนตัวเข้าออกเซลล์ได้ในทันที่ โดยไม่ต้องผ่านระบบการย่อยของร่างกาย
ส่วนประกอบของเกลือดำ
เริ่มกันที่เกลือบริโภคสีขาวที่เราคุ้นเคยกันดี ถือเป็นเครื่องปรุงประจำบ้านทุกบ้าน เอาไว้ใช้ปรุงแต่งรสเค็มให้กับอาหารจานเด็ดของคุณ ส่วนใหญ่เราก็จะใช้เกลือสีขาว 2 ชนิดในการปรุงอาหาร ได้แก่ เกลือสินเธาว์ และ เกลือสมุทร
เกลือสินเธาว์ จะเป็นเกลืออยู่ชั้นใต้ดิน ไม่มีไอโอดีน ใช้วิธีการต้มเพื่อให้ได้น้ำเกลือ พอต้มเสร็จจะตกผลึกเป็นเกล็ดขาวๆ เกิดขึ้น ได้เกลือสินเธาว์ที่มีความละเอียดมาก เป็นผง สามารถนำมาปรุงอาหารได้เลยโดยที่ไม่ต้องนำมาบดหรือปั่น มีความเค็มไม่มาก พบอยู่ตามพื้นดินแถบภาคอีสาน เช่น จังหวัดชัยภูมิ มหาสารคราม ยโสธร อุบลราชธานี และอุดรธานี
ข้อดีเกลือสินเธาว์เป็นเกลือที่เหมาะใช้ในการอุตสาหกรรม เพราะมีความชื้น และแมกนีเซียม(Mg) แคลเซียม (Ca) ค่อนข้างต่ำ
ข้อเสียเกลือสินเธาว์ ไม่มีไอโอดีน (I) เหมือนเกลือทะเลหรือ เกลือสมุทร (Sea Salt) ถ้าขาดไอโอดีนจะเป็นโรคคอพอก และถ้าขาดตั้งแต่ยังเด็ก ร่างกายจะแคระแกร็น สติปัญญาต่ำ หูหนวก เป็นใบ้ ตาเหล่และอัมพาต แต่พอเราจะบริโภค ในทางการค้า เขาจะต้องผสมไอโอดีนเข้าไปด้วย
องค์ประกอบเกลือสินเธาว์
คาร์บอน 2.27% ,
O ออกซิเจน 4.33%,
Ca แคลเซียม0.21% ,
Ru รูทีเนียม 3.46% ,
Cl ครอรีน 59.60%
Na โซเดียม 30.13%
Moisture 1.0%
Sulphate 0.25%
Insoluble substances 1.0%
เกลือสมุทร เป็นเกลืออยู่ผิวดิน ผลิตจากน้ำทะเล มีไอโอดีนโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จะใช้ความร้อนจากแสงแดดเพื่อให้เกลือตกผลึก เม็ดเกลือก็จะใหญ่มาก มีความเค็มแบบเค็มแหลม เค็มมากกว่าเกลือสินเธาว์
องค์ประกอบเกลือสมุทร
Himalayan pink salt หรือ เกลือสีชมพูจากฮิมาลายัน เป็นเกลือที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ผลิตได้จากเหมืองเกลือ Khewra ในเทือกเขาหิมาลัยของประเทศปากีสถาน สีของเกลือมีตั้งแต่สีขาวอมชมพู สีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม อุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติ 84 ชนิด
มีปริมาณโปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็กมากกว่าเกลือทั่วไป แต่มีปริมาณโซเดียมน้อยกว่า คือ ในปริมาณ 1 กรัมเท่ากัน เกลือทั่วไปมีโซเดียม 381 มิลลิกรัม ส่วนเกลือหิมาลัยโซเดียมน้อยกว่า คือ 368 กรัม นอกจากนี้ เกลือบริโภคทั่วไปบางยี่ห้อมีสารป้องกันการจับตัวเป็นก้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย เกลือหิมาลัยซึ่งเป็นเกลือธรรมชาติจึงอาจปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากกว่า
ส่วนใหญ่เกลือชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในด้านความสวยความงาม เช่น นำมาทำเป็นเกลือสปา แต่จริงๆ แล้วเกลือสีชมพูยังสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหารได้ทุกชนิด ซึ่งจะทำให้รสชาติอาหารอร่อย กลมกล่อมขึ้น แถมยังช่วยดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างกลิ่นคาวต่างๆ ได้
ยิ่งสีชมพูยิ่งเข้มมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งแสดงว่ามีความเข้มข้นของแร่ธาตุมากขึ้นเท่านั้น เกลือชนิดนี้จะให้รสชาติไม่เค็มจัดและหวานที่ปลายลิ้น
หลายคนเชื่อว่าการบริโภคเกลือหิมาลัยเป็นประจำจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น เพราะมีประโยชน์มากมาย ดังนี้
เกลือฮาวายสีแดง เรียกอีกชื่อว่า 'เกลืออัลลาแอ' เป็นเกลือสมุทรจากธรรมชาติ ไม่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม เม็ดเกลือตกผลึกผสมกับดินภูเขาไฟอัลลาแอ ซึ่งประกอบด้วยธาตุเหล็กสูง จึงทำให้เกลือมีสีแดงหรือน้ำตาลแดง
เกลืออัลลาแอเป็นเกลือที่บริสุทธิ์มาก ใช้เวลาในการตกผลึกหลายศตวรรษ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทเดียวกับเกลือฮาวายสีดำ เป็นเกลือทะเลเหมือนกัน ต่างเพียงสีสัน มีแหล่งกำเนิดจากรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นเกลือผสมกับดินภูเขาไฟ ไม่ผ่านการขัดสี จึงคงสีแดงอิฐ เป็นวัตถุดิบหลักใช้ปรุงอาหารทะเลพื้นเมืองของชาวฮาวาย ช่วยเติมรสกลมกล่อม นิยมปรุงในเมนูเนื้อหมูและอาหารทะเล
เกลือชนิดนี้รู้จักกันในชื่อ sel gris (ภาษาฝรั่งเศสว่าเป็น "เกลือแกง") เป็นเกลือจากทะเลซีเซลติก ในประเทศฝรั่งเศส ถูกรวบรวมจากก้นสระน้ำขึ้นน้ำลงนอกชายฝั่งประเทศฝรั่งเศส ตากแดดธรรมชาติ ทำให้เกิดผลึกเกลือขึ้นที่บริเวณดังกล่าว อุดมไปด้วยแร่ธาตุ เป็นเกลือที่มีเกล็ดหยาบๆ และชื้น ผลึกเกลือมีสีเทาและให้รสเปรี้ยว เกลือชนิดนี้เหมาะจะนำมาปรุงอาหารในเมนูปลา อาหารทะเล ใช้ทั้งปรุงเพิ่มรสชาติ และใช้สำหรับเมนูเนื้อสัตว์อบเกลือต่างๆ เพื่อเพิ่มความหอม
เกลือชนิดนี้มีช่วงการผลิตในแต่ละปีเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น คือ ระว่างเดือนมิถุนายน – ตุลาคม ของทุกปี ด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในเรื่องของสภาพอากาศและแสงแดด เกลือชนิดนี้มีขนาดเม็ดเกลือค่อนข้างหยาบ และมีปริมาณแร่ธาตุไอโอดีนสูง แต่มีโซเดียมต่ำเมื่อเทียบกับเกลือชนิดอื่นๆ
เกลือชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลและมีกลิ่นรมควัน กลิ่นและรสชาติของเกลือจะขึ้นอยู่กับเวลาและไม้ที่ใช้ในการรมควัน ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละแบบ ไม้ที่นิยมนำมารมควัน ได้แก่ กะลามะพร้าว ไม้แอปเปิ้ล ไม้โอ๊ค ไม้สน โดยจะใช้วิธีรมควันในเตาผิงอย่างช้าๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
เกลือรมควันเป็นเกลือที่เหมาะมากในการปรุงแต่งเนื้อสัตว์และผักให้มีรสชาติที่ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น มันฝรั่ง
เกลือดำชนิดนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกลือลาวาดำ เป็นเกลือที่ผลิตได้จากเกาะภูเขาไฟของฮาวาย ผลึกเกลือมีความพิเศษตรงที่ผลึกเกลือซึมซับเอาสีดำมาจากการเพิ่มของถ่านกัมมันต์บนภูเขาไฟ เกลือฮาวายสีดำมีผลึกเกลือที่ละเอียด และมีรสสัมผัสที่กรอบ เป็นเกลือที่เหมาะสำหรับการปรุงเมนูเนื้อหมูและอาหารทะเล
มีชื่อเรียกว่า Kala namak (เกลือดำ) ถูกค้นพบในประเทศเนปาล เป็นเกลือหิมาลัยที่มีส่วนผสมของถ่านที่ได้จากเมล็ดและเปลือกของสมุนไพรเนปาล ผ่านกระบวนการเผาสมุนไพรเข้าไปในเตา รมใส่เกล็ดเกลือ ตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นจะปล่อยให้เกลือเย็นลง และจัดเก็บลงภาชนะสะอาด จะได้เกลือที่มีสีแดงเข้มเกือบดำ และไปจนถึงสีดำ
8. เกลือสีน้ำเงิน
มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ภูเขา Erogourz ทางภาคเหนือของประเทศอีหร่าน บางทีถูกเรียกว่า “Persian Blue Salt” หรือ “Fossil Salt” ใช้เวลาหลายล้านปีในการตกผลึกเป็นเกลือ ด้วยแรงกดดันมหาศาลในกระบวนการตกผลึก ทำให้เม็ดเกลือมีรูปร่างแปลกไม่เหมือนกับเกลือชนิดอื่น และสีน้ำเงินเกิดจากการหักเหของแสงที่ตกกระทบกับเม็ดเกลือ ทำให้เรามองเห็นเป็นสีน้ำเงินคล้ายกับสีของธารน้ำแข็ง เกลือชนิดนี้มีราคาแพงและมีรสชาติออกหวาน นิยมใช้ประกอบอาหารจานพิเศษที่มีราคาสูง