คู่มือโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ คู่มือการโฆษณาเครื่องสำอาง จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณะสุข ได้กำหนดเกี่ยวกับการโฆษณาไว้..ดังนั้นขอให้ SME และผู้ค้าขาย ระวังไว้ด้วย..
กฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง กับการโฆษณาอาหาร
1. พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
มาตรา 40 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จหรือ เป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร
มาตรา 41 ผู้ใดประสงค์จะโฆษณา คุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร ทางวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ทางฉายภาพ ภาพยนตร์หรือทางหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์อื่น หรือด้วยวิธี อื่นใดเพื่อประโยชน์ในทางการค้า ต้องนำเสียง ภาพ ภาพยนตร์หรือข้อความที่จะโฆษณาดังกล่าวนั้นให้ ผู้อนุญาตตรวจพิจารณาก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะโฆษณาได้
มาตรา 42 เพื่อพิทักษ์ประโยชน์และความปลอดภัยของผู้บริโภค ให้ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งเป็น หนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
(1) ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหาร หรือผู้ทำการโฆษณา ระงับการโฆษณา อาหารที่เห็นว่าเป็นการโฆษณาโดยฝ่าฝืนมาตรา 41
(2) ให้ผู้ผลิตผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหาร หรือผู้ทำการโฆษณาอาหารระงับการผลิต การนำเข้า การจำหน่าย หรือการโฆษณาอาหารที่คณะกรรมการเห็นว่าอาหารดังกล่าวไม่มีคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณตามที่โฆษณา
มาตรา 70 ผู้ใดโฆษณาอาหารโดยฝ่าฝืนมาตรา 40 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับ ไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 71 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 41 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา 72 ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อนุญาตซึ่งสั่งตามมาตรา 42 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละไม่น้อยกว่าห้าร้อยบาท แต่ไม่เกิน หนึ่งพันบาท ตลอดเวลาที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว
2. ประกาศสำ นักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง
หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2551
หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555
หลักเกณฑ์การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน
3. พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522
มีเนื้อหาสาระสำคัญ คือการโฆษณาจะต้องไม่ใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือ ใช้ข้อความที่อาจ ก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ทั้งนี้ไม่ว่าข้อความดังกล่าวนั้นจะเป็นข้อความที่ เกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสภาพ คุณภาพ หรือลักษณะของสินค้าบริการตลอดจนการส่งมอบ การจัดหา หรือ การใช้สินค้าหรือ บริการซึ่งข้อความดังต่อไปนี้ถือว่าเป็นข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือ เป็นข้อความ ที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม
(1) ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ซึ่งไม่รวมถึงข้อความที่ใช้ในการโฆษณาที่บุคคลทั่วไป สามารถรู้ได้ว่าเป็นข้อความที่ไม่อาจเป็นความจริงได้โดยแน่แท้
(2) ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะกระทำ โดยใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการ สถิติหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็นความจริงหรือเกิน ความจริงหรือ ไม่ก็ตาม
(3) ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อม ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย หรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ
(4) ข้อความที่จะทำให้เกิดความแตกแยกหรือเสื่อมเสียความสามัคคีในหมู่ประชาชน
(5) ข้อความอย่างอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง นอกจากนี้การโฆษณาจะต้องไม่กระทำด้วยวิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายหรือ จิตใจ หรืออันอาจก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้บริโภค
4. หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำ หรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง พ.ศ.2551
5. กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์พ.ศ.2551, พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 เป็นต้น
อีกข้อหนึ่งที่ต้องระวังคือข้อมูลที่ลงไว้ในคอมพิวเตอร์ จะต้องเป็นจริง ถ้าเป็นเท็จ จะโดนข้อหา..นำข้อมูลลงคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จได้...ข้อกล่าวหานี้ต้องขึ้นศาลด้วย..ขอให้ใช้พิจารณญาณให้ดี..
ข้อกำหนดการโฆษณาเครื่องสำอาง ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
อย่างไรก็ตาม ข้อห้ามเหล่านี้เป็นเพียง ข้อมูล ‘สรุป’ ที่นำมาย่อยให้อ่านกันคร่าว ๆ เท่านั้น
สรุปความ พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550
สรุปสาระ พระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
1. การฝากร้านใน Facebook IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
2. ส่ง SMS มาโฆษณา โดยไม่รับความยินยอม ต้องมีทางเลือกให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
3. ส่ง e-Mail ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
4. กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ. ยกเว้นการกด Like เรื่องเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 หรือมีความผิดร่วม
5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่ Share นั้นมีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3
6. พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ความเห็นในเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึง Facebook ที่ให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่าการแสดงความเห็นผิดกฎหมาย เมื่อแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อลบได้ทันที เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไม่มีความผิด
7. ฉะนั้น Admin ที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เมื่อพบข้อความที่ผิด พ.ร.บ. เมื่อลบออกจากพื้นที่ที่ตนดูแล จะถือเป็นผู้พ้นผิด แต่หากไม่ยอมลบออก จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
8. การ Post สิ่งลามกอนาจาร ที่ทำให้เกิดการเผยแพร่สู่ประชาชนได้ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
9. การ Post เกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ต้องปิดบังใบหน้า ยกเว้นเมื่อเป็นการเชิดชู ชื่นชมอย่างให้เกียรติ
10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ญาติสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
11. การ Post ด่าว่าผู้อื่น มีกฎหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีข้อมูลจริง หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้ Post ได้ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
12. ไม่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด ไม่ว่าข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
13. ส่งรูปภาพแชร์ของผู้อื่น เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผิด ถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หารายได้
สรุปนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ที่มีผลบังคับใช้แล้ว หากจะกระทำการใดๆ ขอให้ Check Sure ก่อน Share จะได้ไม่เดือดร้อน
หากผู้อ่านท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถเข้าไปดูตามลิงก์ด้านล่างได้เลย..
คลิ๊กลิ้งค์..ข้างล่าง..ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโฆษณา
คู่มือโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ