
ภาวะปัสสาวะบ่อยเกินไป ไม่อันตรายถึงชีวิต เพียงแต่จะรบกวนการใช้ชีวิตของผู้ป่วย
อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
อาการที่เกิดขึ้น คือ ผู้ป่วยต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะมากกว่า 1 ครั้งในช่วงกลางคืน ทำให้ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างต่อเนื่องและอาจส่งผลกระทบต่อระบบการนอนหลับด้วย เพราะตามปกติแล้วคนทั่วไปควรนอนหลับอย่างต่อเนื่อง 6-8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก

สาเหตุของอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
แม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่การปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนอาจเกิดจากหลายปัจจัย ตั้งแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตไปจนถึงการใช้ยาต่าง ๆ โดยสาเหตุที่อาจพบได้บ่อย มีดังนี้
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ดื่มน้ำมากเกินไปหรือดื่มน้ำใกล้เวลานอนจะทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะในปริมาณมากขึ้น
- ดื่มเครื่องดื่มบางชนิด เช่น คาเฟอีน เครื่องดื่มที่มีรสจัด โซดา อาหารที่รสจัด เครื่องเทศ วาซาบิ เป็นต้น
- ดื่มน้ำบ่อยทั้งที่ร่างกายยังไม่ทันขาดน้ำ อาจเกิดจากอาการคอแห้งบ่อย ก็เป็นสาเหตุให้ปัสสาวะบ่อยกว่าคนปกติได้
- บางคนชอบทานผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากก็ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้เช่นกัน
อายุ
- ผู้ที่มีอายุมากอาจปัสสาวะบ่อยมากขึ้น เพราะร่างกายผลิตฮอร์โมนได้น้อยลง

- ผู้ชายสูงอายุอาจเกิดภาวะต่อมลูกหมากโตและส่งผลให้ปัสสาวะมากขึ้น
- ผู้หญิงอาจปวดปัสสาวะบ่อยในช่วงวัยทองเพราะร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง จึงมีการเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
การใช้ยา
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เนื่องจากยาได้ขับของเหลวออกมาจึงทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะบ่อยขึ้น โดยเฉพาะการใช้ยาขับปัสสาวะ ยาลดความอ้วน
การเจ็บป่วยหรือภาวะต่าง ๆ
- ความผิดปกติของระบบประสาทสั่งการทั้งสมอง ไขสันหลัง และส่วนต่างๆ ทั้งหมด
- กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไปจะเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะโดยตรง เช่น การอักเสบ
- โรคในกระเพาะปัสสาวะ เช่น มีนิ่วหรือก้อนเนื้องอก
- ความผิดปกติของอวัยวะข้างเคียง เช่น ในผู้หญิงอาจมีความผิดปกติของมดลูก มีเนื้องอกที่มดลูกหรือรังไข่ ฮอร์โมนที่ขาดไป
- ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนและปวดปัสสาวะตลอดทั้งวัน
- กระเพาะปัสสาวะหย่อน
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- โรคเบาหวาน เกิดจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูง ไตพยายามกรองเอาสารอาหารที่มีประโยชน์อย่าง น้ำตาล กลับคืนสู่ร่างกาย แล้วส่งออกไปพร้อมปัสสาวะ
- โรคหัวใจล้มเหลว
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การทำงานของไตว่ามีความบกพร่องหรือมีการกลั่นปัสสาวะบ่อยเกินไป
- โรคเบาจืด เป็นโรคที่ทำให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนที่ควบคุมสารน้ำในร่างกาย มักมีอาการกระหายน้ำร่วมด้วย จนทำให้ปัสสาวะบ่อย
การตั้งครรภ์
อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนถือเป็นสัญญาณเตือนอันดับแรก ๆ ของผู้ที่ตั้งครรภ์ โดยเกิดจากมดลูกไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย

การรักษาอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
การรักษาอาการนี้จะขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นหลัก ในเบื้องต้นแพทย์อาจแนะนำให้งดดื่มเครื่องดื่มต่าง ๆ ก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง แต่ปริมาณน้ำที่ผู้ป่วยดื่มควรเพียงพอสำหรับร่างกายในแต่ละวันด้วย
การใช้ยา
ยาที่ใช้รักษามีอยู่หลายชนิด โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยาตามสาเหตุและอาการ เพื่อช่วยลดการผลิตปัสสาวะในตอนกลางคืน ส่วนบางรายที่มีอาการนี้จากการใช้ยาบางชนิด แพทย์อาจให้ใช้ยานั้น ๆ ก่อนเวลาตามปกติ
ตัวอย่างยาที่อาจนำมาใช้รักษาอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
- ยากลุ่มแอนตี้โคลิเนอร์จิก ใช้สำหรับบรรเทาอาการจากภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน
- ยาเดสโมเพรสซิน ช่วยให้ไตผลิตปัสสาวะในตอนกลางคืนน้อยลง
- ยาแทมซูโลซิน ยาฟิแนสเทอไรด์ หรือยาดูทาสเตอไรด์ ใช้สำหรับรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต
- ยาปฏิชีวนะ ใช้รักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
การกระตุ้นไฟฟ้า
เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อควบคุมการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมกระเพาะปัสสาวะ โดยแพทย์จะฝังอุปกรณ์ขนาดเล็กใกล้กับก้นกบ เพื่อส่งสัญญาณไฟฟ้าไปกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ
การผ่าตัด
หากการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วอาการไม่หายขาด แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการและสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนด้วย
การป้องกันอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางสาเหตุอาจป้องกันได้ยาก แต่บางสาเหตุก็อาจป้องกันได้ ดังนี้
- ก่อนเข้านอนควรลดการดื่มน้ำประมาณ 2-4 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ปวดปัสสาวะในตอนกลางคืน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคือง เช่น ช็อกโกแลต อาหารรสเผ็ด อาหารที่เป็นกรด หรือสารให้ความหวาน เป็นต้น
- บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพราะอาจทำให้ควบคุมการปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น
- หมั่นสังเกตอาการที่เกิดขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม หรืออาจจดบันทึกเกี่ยวกับการดื่มน้ำในแต่ละวันเอาไว้ด้วย
สุขภาพแข็งแรง ภูมิต้านทานร่างกายดี อาจต้องมีตัวช่วยบ้าง.. จำเป็นต้องทานหรือไม่ ดูได้จากเปรียบเทียบร่างกายเราเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กับวันนี้ ถ้าแข็งแรงขึ้น มีความสุขดี..ก็สบายใจได้..แต่ถ้าแย่ลง..ก็ขอแนะนำโปร-เอ็กบีนะครับ.. Cr. pobpad.com, mahidol.ac.th